เครื่องรางมังกร ตอน นครแห่งงูใหญ่ที่หายสาปสูญ

Dark_Sniper

อารัมภบท

หลังสงครามโลกที่มีกันมาต่อหลายๆครั้งหลายๆครา โลกก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น เพราะจากความสูญเสียสมดุลในหลายๆด้านจากสงครามที่ยากจะกู้คืนมาได้ แต่เทคโนโลยีของมนุษย์กลับแย่ลงๆไปเรื่อยๆ และเลิกพึ่งพามันไปในที่สุด มนุษย์ก็หันมาสนใจสิ่งรอบข้างที่เกิดใหม่ เช่น มังกร นางเงือก ภูตผีปีศาจ เวทมนตร์ และอื่นๆอีกมากมาย ี่เคยอยู่ในเรื่องเล่าหรือตำนานที่มีอายุหลายชั่วคนเลยทีเดียว และเรียนรู้กับสิ่งเหล่านั้นด้วยกันมากขึ้น เมื่อมนุษย์เลิกใช้เครื่องมือจากเทคโนโลยีแล้ว ก็ได้หะนมาใช้เวทมนต์ ที่พึ่งเกิดขึ้นมากับพวกที่เกิดใหม่ หากแต่สงครามก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เรื่องแย่งพื่นที่ดิน และ อำนาจในการปกครอง ถึงกระนั้นก็ได้หารู้ไม่ว่า พวกที่เกิดใหม่นั้นได้พัฒนาร่ายกายของพวกมันจน มีสภาพร่างกายและจิตใจและความเป็นอยู่คล้ายมนุษย์และปะปนกับมนุษย์ หลายสิ่งก็ไม่ได้มีการพัฒนา



ปัจจุบัน ที่ถึงจะมีสงครามกันอยู่ก็ตาม แต่ก็ถือว่ากลายเป็นโลกใหม่ไปโดยปริยาย โดยจากผู้รอดชีวิตจากสงครามรวมตัวกันตามที่ต่างๆช่วยกันสร้างเมืองของตนเอง ในแต่ละกลุ่ม เรียนรู้วิชาตามภูมิประเทศและภูมิอากาศที่ตนเองอาศัย แล้วก่อตั้งเป็นแต่ละเผ่าพันธุ์ และแต่ละตำแหน่งในเมืองๆหนึ่งเล็กของพวกเขา และผู้รอดชีวิตจากสงครามนั้นที่แยกย้ายออกเป็นกลุ่มต่างอกต่างพร้อมใจที่จะตั้งชื่อโลกใบใหม่ให้เหมือนเทพเจ้าว่า ฟรีเซีย ที่โลกที่ซึ่งเต็มไปด้วยพลัง เวทมนตร์ พวกที่เกิดใหม่ที่ได้รับพัฒนาแล้วหรือยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลง และสิ่งวิเศษ ตามแต่มนุษย์จะคิดค้นและสามารถสร้างขึ้นมาได้อีก



และในเวลาผ่านไปอีกหลายร้อยวันพันปี  ชาวโลกแห่งฟรีเซียก็ได้แบ่งเป็นสองพวก ที่เป็นเมืองหลวงและเมืองหลัก คือ เอลเดอร์และไอริส  และเมืองเอลเดอร์ที่มีเจ้าหญิงมังกรอาศัยและเป็นความสมดุลของเอลเดอร์ด้วย เพราะเจ้าหญิงมังกรเป็นสิ่งที่ชาวเอลเดอร์ทั้งหลายต่างนับถือ และคิดว่า เป็นเทพธิดา ของ เทพเจ้าฟรีเซีย ที่ปกครองโลกใบใหม่ที่ตั้งชื่อตามเทพเจ้า แล้วเมื่อเวลาผ่านไป โลกก็ได้เข้าสู่สมดุลอีกครั้ง และแน่นอน โลกทุกใบล้วนมีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมา ไม่เว้นแต่โลกใหม่ใบนี้
ตำนานเก่าแก่ ที่มีเรื่องเล่าคลับคล้ายว่าเอาซากศพมัมมี่ในหลายๆคนที่เคยต่อสู้ครั้งเมื่อยังมีสงครามของมนุษย์ผู้โง่งี่เง่าไปวันๆมาติดเรียงกันมาเผาให้เกดิความเชื่อถือมหาศาลของชาวโลกในยุคนี้ นั้นได้เคยกล่าวไว้ว่า
         ในสมัยที่เมืองหลวงที่มีชื่อว่าเอลเดอร์และเมืองหลักที่มีชื่อว่าไอริส ที่ได้ถูกแบ่งและให้เกิดขึ้นมาพร้อมกันนั้น
        ได้มีนักบุญผู้หนึ่งเคยทำนายไว้ว่า เจ้าหญิงมังกรจะหายสาปสูญไปเมื่อมีพายุลูกใหญ่มหึมาเข้ามาในเมืองหลวงเอลเดอร์ คลับคล้ายว่า เทพเจ้าฟรีเซียไม่พอใจในการกระทำของมนุษย์ในเอลเดอร์ที่ชอบสร้างความวุ่วนวายชีวิตของสัตว์และคนนับร้อยคนฆ่ากันเป็นว่าเล่น เลยได้นำพายุลูกนี้มากลักพาตัวเจ้าหญิงมังกรไปไว้ที่หนึ่ง และเมื่อเจ้าหญิงหายไป สิ่งวิเศษทั้งหลายและพวกมังกรนับล้านพันตัวจะก่อเกิดอาละวาดผู้คนในเอลเดอร์ไปทั่ว เพราะว่าเจ้าหญิงมังกรนี่แหละคือความสมดุลของเอลเดอร์ แต่กลับกันหลายคนคิดว่า เทพเจ้าเข้าข้างเมืองไอริสมากกว่าเอลเดอร์ เพราะเมืองเอลเดอร์ทีเดกดิสงครามนับไม่ถ้วนนั้นเพราะสปายของชาวไอริสที่ปลอมแปลงตัวเข้ามาในเอลเดอร์ แล้วก่อให้เกดิความขัดแย้งขึ้นมา เนื่องจาก เมืองไอริส ไม่สวยงามและสง่างามอย่างผ่าเผยไม่เท่าเอลเดอร์จึกเกดิความอิจฉาริษยาขึ้นมา หลายคนต่างไม่เห็นด้วยในการกระทำที่ผิดของชาวไอริสด้วยกันเอง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และนักบุญผู้นั้นเองที่เป็นช่วไอริสนั้นได้กล่าวอีกอย่างว่า จะมีเด็กหนุ่มน้อยจะกู้อิสรภาพให้แก่เอลเดอร์ขึ้นมาอีกครั้ง ที่ได้รับขนานนามว่า บุตรแห่งเทพเจ้าซิเวีย จะช่วยกู้ความเป็นเอลเดอร์และเป็นผู้ต่อต้านเทพเจ้าฟรีเซียด้วยเช่นกัน



แต่นับในวันปัจจุบัน ผมเองตั้งแต่เกิดมาในเอลเดอร์นั้นก็ได้แต่คิดว่า ถ้านักบุญในไอริสไม่เห็นด้วยกับการกระทำของชาวไอริสด้วยกัน ทำไมเขาต้องตายจากไปเสียก่อนเล่า มำไมไม่เล่าและแก้ไขกันมาเองก่อน จะให้รุ่นพวกผมมานั่งตามหา บุตรแห่งเทพเจ้าซิเวีย หลายคนอาจสงสัยว่า เทพเจ้าซิเวียนั้นมาจากไหน ทำไมมาอยู่ในโลกใบใหม่นี้ได้ เทพเจ้าซิเวีย เป็นเทพเจ้าอีกองค์หนึ่งที่เคยอยู่โลกอีกใบนึงที่อยู่ข้าง โลกใบนี้นั่นเอง แต่เมื่อไม่นานมานี้ โลกใบนั้นก็ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆเพราะความขัดแย้งของธรรมชาติและภัยพิบัติในโลกใบนั้นเอง ทำให้เทพเจ้าซิเวียต้องลี้ภัยมาอยู่ในฟรีเซีย และหลงใหลความงามของมังกรน้ำแข็งอมชมพูเพศเมียตัวหนึ่งเข้า นั่นเป้นที่มาของเจ้าหญิงมังกรเลยทีเดียว เธอเป็นบุตรสาวของซิเวีย และก่อนที่เธอจะเลือกว่าเธอจะอาศัยและดูแลที่ใดนั้น เธอได้รู้จักเทพเจ้าฟรีเซียด้วยเช่นกัน ที่ซึ่งถ้านับอายุคงเป้นคุณลุงสำหรับเธอไปเลยทีเดียว - -* และก่อนจากเทพเจ้าซิเวียจะจากไปพร้อมกับแม่ของตน เขาได้ฝากฝังเพื่อนสนิทของเขานั่นคือเทพเจ้าฟรีเซียช่วยดูแลให้เท่าทัดเท่าเทียมกัน และฝากดูแลลูกสาวของเขาด้วย
จึงได้เกิดตำนานอีกเรื่องหนึ่งที่ว่า เจ้าหญิงมังกรคยดูแลเมืองเอลเดอร์มากเกินไป จนกลายเป้นเมืองที่สวยงามมากกว่าเมืองไอริสเป้นนับล้านเท่าตัวเลยทีเดียว ทำใหชาวเอลเดอร์หลายคนก็ต่างไม่รู้จักว่า มีเมืองหลักที่ชื่อว่าไอริสด้วยงั้นหรือ? แต่เทพเจ้าฟรีเซียก็คอยดูแลและคุ้มครองทั้ง 2 เมืองพร้อมๆกัน จนเกิดคำทำนายขึ้นมาที่ได้กล่าวไปนั่นเอง แต่ให้ตายสิ นับวันจนกระทั่งวันนี้ ชาวเอลเดอร์และชาวไอริสก็ยังถือสัมพันธ์ไมตรีอยู่วันยังค่ำ ยังไม่เกดิความขัดแย้งกันซักหน่อย แม่จะเกิดเป็นการทะเลาะวิวาทกันนิดหน่อยก็ตามเหอะ หรือถ้าเกิดเข้าจริงๆ เข้าเอลเดอรืกับไอริสคงไม่ตีสงครามกันตายห่ากันเลยรึไงกันนะ

เฮ้อ.. =_=
      รู้สึกหนักใจมากที่ต้องมานั่งฟังจากลมปากเรื่องราวตำนานอันเก่าแก่จนมีสถาพกลายเป็นซากศพของมัมมี่ของหญิงสาววัยทองหลายคนมานั่งเล่าตำนานให้พวกผมฟังเนี่ย ถ้าเล่าครั้งเดียวก็พอเข้าใจอยู่หรอกนะ แต่ถ้าหากว่า เล่ากันทุกเย็น นี่ชักมากไปหน่อยแล้วแหละนร้า
       และตราบใดที่ยังมีนักบุญยังใช้วิชามังกรศาสตร์เป็นหลักสูตรหลักมาให้พวกผมมานั่งเรียนกันอยู่ทุกวันนี้ยังไม่จางหายไปหรือน้ำในบ่อน้ำยังมีเสียงกรนของตัวอะไรก็ไม่รู้ที่ยังไม่มีใครกล้าลงไปในบ่อดู และ เจ้าหญิงมังกรที่หลายชาวเมืองเอลเดอร์ยังไม่เคยเห็นตัวจริงว่าเป้นยังไง หรือ ถ้าหากว่าพวกคนจนและพวกนอกรีตนั่นมีหมวกทนความร้อนได้อยู่บนหัว และ พ่อค้าร้านขายยาชื่อดังในเมืองไอริสยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะเติมส่วนประกอบอย่างอุ้งตีนหมี อัดลงไปในยาแคปซูลขนาดเล็กๆนั้นอยู่ด้วยละก็

ผมก็ยังไม่เชื่อคำทำนายในตำนานเก่าแก่ๆเพี้ยนๆได้ลงหรอก!!!! สาบานเลยก็ได้เอ้า! 

Dark_Sniper